terms_policy

Privacy Policy

ข้อตกลงการใช้บริการ

ประกาศใช้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 (ฉบับล่าสุด)

โปรดอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงการใช้บริการนี้ฉบับนี้อย่างละเอียด เนื่องจากข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นและมีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่าง บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และลูกค้าในฐานะผู้ลงทะเบียนใช้บริการของบริษัทผ่านเว็บไซต์ https://togsmartlearning.com/ (“ลูกค้า”) 

เนื่องด้วยลูกค้าประสงค์ใช้บริการของบริษัทผ่านเว็บไซต์และตกลงที่จะปฏิบัติตามรายละเอียดและเงื่อนไขตามข้อตกลงการใช้บริการฉบับนี้ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ข้อตกลง”) โดยลูกค้าได้พิจารณาข้อตกลงเป็นอย่างดีแล้วและยินยอมผูกพันตามสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

คำนิยาม

เว้นแต่จะมีข้อความโดยชัดแจ้งให้หมายความเป็นอย่างอื่น ในข้อตกลงฉบับนี้ให้คำดังต่อไปนี้มีความหมายดังนี้

“บริการ” หมายถึง การให้บริการใดบริการหนึ่งหรือทุกบริการที่ให้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ได้แก่ การลงทะเบียนคอร์สเรียน และการชำระเงินค่าลงทะเบียนตามหลักสูตร การเรียนตามคอร์สเรียน การวัดผลการเรียน การออกประกาศนียบัตรออนไลน์  และหมายความรวมถึงบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการให้บริการดังกล่าว 

“คอร์สเรียน” หมายถึง คอร์สเรียนทั้งหมดที่ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทและนำมาให้บริการตามข้อตกลงฉบับนี้ 

“ผู้สอน” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นผู้เผยแพร่คอร์สเรียนบนเว็บไซต์ของบริษัท

คุณสมบัติของลูกค้า

ลูกค้าที่ประสงค์ใช้บริการของบริษัทต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถหรือบุคคลไร้ความสามารถ หรือเป็นบุคคลล้มละลาย  โดยลูกค้ารับรองและรับประกันว่าลูกค้ามีลูกค้าสมบัติถูกต้องและครบถ้วนตามที่บริษัทกำหนด 

การสมัครใช้บริการ

บริษัทอนุญาตให้ลูกค้ามีบัญชีผู้ใช้บริการกับทางบริษัทเพียงหนึ่งบัญชีเท่านั้น โดยลูกค้าต้องลงทะเบียนสมัครใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัทด้วยการสร้างบัญชีผู้ใช้และกรอกข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยลูกค้ารับรองว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นถูกต้องเป็นจริงและเป็นปัจจุบัน ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลลูกค้าตกลงที่จะแจ้งการเปลี่ยนแปลงนั้นให้บริษัททราบโดยทันที

ในกรณีที่ลูกค้ามิได้ระบุข้อมูลให้ครบถ้วนหรือข้อมูลที่ส่งมอบให้แก่บริษัทไม่เพียงพอ ลูกค้ายินยอมที่จะให้พนักงานซึ่งได้รับมอบหมายจากบริษัทดำเนินการสอบถามข้อมูลหรือขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมจากลูกค้าด้วยการติดต่อผ่านข้อมูลการติดต่อที่ลูกค้าได้ลงทะเบียนกับบริษัท

ลูกค้าตกลงและยอมรับว่าเป็นดุลยพินิจเพียงฝ่ายเดียวของบริษัทในการอนุมัติบัญชีผู้ใช้งานและบริษัทอาจปฏิเสธการสร้างบัญชีผู้ใช้ของลูกค้าหรือจํากัดการทำธุรกรรมของลูกค้าตลอดการใช้งานบัญชี ในกรณีที่บริษัทตรวจสอบพบว่าข้อมูลหรือเอกสารหลักฐานที่ลูกค้าแจ้งแก่บริษัทในการสมัครใช้บริการไม่เป็นความจริง บริษัทขอสงวนสิทธิในการระงับหรือปฏิเสธการให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องชี้แจงและแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

การจัดการบัญชีผู้ใช้งาน

ลูกค้าตกลงที่จะรับผิดชอบในการเก็บรักษารหัสประจำตัวผู้ใช้ (“User ID”) และรหัสผ่าน (“Password”) ไว้เป็นความลับและป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นนำไปใช้ตลอดระยะเวลาการใช้บริการของบริษัท ในกรณีที่มีผู้ใดนำรหัสประจำตัวผู้ใช้และรหัสผ่านของลูกค้าไปใช้ในการดูข้อมูลหรือทำธุรกรรมไม่ว่าในกรณีใด ลูกค้าตกลงที่จะรับผิดชอบสำหรับการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่นเองทั้งสิ้น

ลูกค้าตกลงรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวต่อการสูญหายหรือการถูกล่วงละเมิดในข้อมูล และ/หรือ ข้อมูลส่วนตัว ที่อาจส่งผลให้เกิดการเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ของลูกค้าจากบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยบริษัทจะรับผิดชอบกรณีการสูญหาย หรือการถูกล่วงละเมิดในข้อมูลที่เกิดจากความผิดพลาดของบริษัทเองเท่านั้น

ลูกค้าจะแก้ไขและปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นใดของลูกค้าที่ได้แจ้งไว้แก่บริษัทให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ โดยลูกค้าจะรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวในกรณีเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายจากการละเลยหรือไม่ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน

ลูกค้าตกลงใช้บัญชีและบริการของบริษัทโดยและเพื่อตนเองเท่านั้น และไม่อนุญาตให้ผู้อื่นใช้เป็นการชั่วคราวหรือถาวร หรือใช้บริการร่วมกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด รวมถึงไม่เปิดเผยบัญชีให้แก่บุคคลอื่นเพื่อให้ใช้บริการแทนตน ในกรณีที่ลูกค้ามีเหตุอันควรสงสัยว่าบัญชีหรือข้อมูลของลูกค้าถูกล่วงละเมิดลูกค้า และ/หรือ มีการละเมิดมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นของบริษัท ลูกค้าจะแจ้งบริษัททันทีตามช่องทางที่บริษัทกำหนด

การใช้บริการ

ลูกค้าไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้บริการหรือสร้างบัญชีใช้งานกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย การใช้บริการและพฤติกรรมของลูกค้าจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเทศของลูกค้า โดยลูกค้าจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับดังกล่าวที่มีผลบังคับใช้กับลูกค้า

การใช้บริการของบริษัทลูกค้าต้องดำเนินการผ่านเว็บไซต์เท่านั้น โดยการใช้บริการลูกค้าจำเป็นต้องดำเนินการชำระค่าคอร์สเรียนตามช่องทาง วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ ลูกค้าเข้าใจเป็นอย่างดีและตกลงว่าเมื่อลูกค้าได้ชำระค่าคอร์สเรียนเรียบร้อยแล้วไม่ว่ากรณีใดก็ตามบริษัทไม่มีนโยบายในการคืนเงินค่าคอร์สเรียนแก่ลูกค้า และลูกค้ายินยอมจะไม่เรียกร้องหรือทวงคืนค่าคอร์สเรียนแต่อย่างใด 

ลูกค้าตกลงให้บริษัทไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใดอันเกิดจากการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อคอร์สเรียนของลูกค้า ในกรณีมีเหตุสุดวิสัยหรือมีความจำเป็น หรือเป็นกรณีที่ลูกค้าไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือระยะเวลาที่บริษัทกำหนดสำหรับการใช้บริการ บริษัทสงวนสิทธิในการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวที่ลูกค้าได้ถูกส่งเข้ามาในระบบ

ลูกค้าเข้าใจและตกลงว่าเมื่อผู้สอนเผยแพร่คอร์สเรียนบนเว็บไซต์ของบริษัท ผู้สอนให้สิทธิแก่บริษัทในการเผยแพร่คอร์สเรียนดังกล่าวแก่ลูกค้าผู้ซื้อคอร์สเรียนนั้น ซึ่งหมายความว่า การเข้าเรียนคอร์สเรียนต่างๆ ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียนฟรีหรือต้องชำระเงิน ลูกค้าเป็นผู้ได้รับอนุญาตจากบริษัทให้เข้าดูเนื้อหาของคอร์สเรียนได้เท่านั้นภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้และเป็นสิทธิเฉพาะตัวบุคคลซึ่งไม่สามารถโอนแก่บุคคลอื่นใด รวมถึงบริษัทไม่ได้ให้สิทธิแก่ลูกค้าในการเปิดเผย เผยแพร่ หรือแบ่งปันคอร์สเรียนในลักษณะใดแก่บุคคลภายนอก ตลอดจนการบันทึกคอร์สเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทไม่ว่าเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือการพาณิชย์

ลูกค้าเข้าใจว่าลูกค้าไม่มีสิทธิและรับรองว่าจะไม่ดำเนินการบันทึก ทำซ้ำ จำหน่าย ออกอากาศ เผยแพร่ ให้เช่า แบ่งปันให้ยืม ดัดแปลง แก้ไข หรือสร้างผลงานลอกเลียนแบบคอร์สเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร 

ธุรกรรมต้องห้าม

ลูกค้าเข้าใจและตกลงที่ไม่ทำธุรกรรมต้องห้ามดังต่อไปนี้

กระทำการใดที่ขัดต่อกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งออกหรือบัญญัติโดยหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกฎหมายอาญา กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นต้น รวมไปถึงการใช้บริการของบริษัทเพื่อเป็นเครื่องมือหรือดำเนินกิจกรรมอื่นใดที่ขัดต่อกฎหมายทั้งทางตรงหรือทางอ้อม

รบกวนการเข้าถึง การใช้บริการ หรือละเมิดสิทธิตามกฎหมายของลูกค้ารายอื่น รวมถึงการใช้หรือมีเจตนาที่จะใช้บัญชีของลูกค้ารายอื่นของบริษัทโดยมิได้รับอนุญาต

แทรกแซง ระงับ ยับยั้ง ชะลอ ขัดขวาง รบกวน ลดทอน ทำลาย ทำให้เสียหาย ดัก เก็บ รวบรวม แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลง ข้อมูลหรือเนื้อหาใดของบริษัทที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของบริษัท หรือกระทำการอื่นใดเพื่อให้ระบบของบริษัทไม่สามารถทำงานได้ตามปกติหรือไม่เป็นไปตามความมุ่งหวัง รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมภายนอกที่ใช้งานร่วมกับเว็บไซต์ของบริษัทโดยไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางบริษัท

การทำวิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) หรือการถอดซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท

การสร้างข่าวลือหรือกระทำการอันเป็นอันตรายต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท หรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อสร้างความเข้าใจผิดหรือก่อความเดือดร้อนรำคาญต่อลูกค้าอื่น

(ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ธุรกรรมต้องห้าม”)

เว็บไซต์ของบริษัท

ข้อมูลที่เปิดเผยทั้งหมดบนเว็บไซต์ของบริษัทมีขึ้นเพื่อประกอบการให้บริการแก่ลูกค้า บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อมูลบนเว็บไซต์โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งลูกค้าล่วงหน้า อย่างไรก็ตามในกรณีบริษัทเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้ หรือประกาศความเป็นส่วนบุคคล หรือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบริษัท บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า 

กรณีมีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเนื้อหาของบุคคลภายนอก เช่น เว็บไซต์ของบุคคลภายนอก เพื่อความสะดวกของเว็บไซต์ของบริษัท ลูกค้าเข้าใจว่าเนื้อหาข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ถูกควบคุมโดยบริษัทและยินยอมให้บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบหรือรับผิดต่อข้อมูล เนื้อหา หรือการบริการที่มีอยู่ในเนื้อหาหรือเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกที่เข้าถึงหรือเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของบริษัท

ลูกค้าตกลงและยอมรับว่าสิทธิและประโยชน์ในเนื้อหา สัญลักษณ์ บริการของบริษัท ข้อมูลที่นำเสนอไว้บนเว็บไซต์ รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาอื่น เช่น ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายจดทะเบียน เป็นทรัพย์สินของบริษัท และ/หรือ ผู้ให้ใช้สิทธิ์อื่น (“ทรัพย์สินทางปัญญา”)

ลูกค้าตกลงและรับรองว่าจะไม่คัดลอก ดัดแปลง เปิดเผย เผยแพร่ จำหน่าย หรือใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท

การปิดบัญชีผู้ใช้งาน

ลูกค้าสามารถยกเลิกหรือปิดบัญชีผู้ใช้งานของบริษัทได้ทุกเมื่อด้วยการส่งคำสั่งปิดหรือยกเลิกบัญชีในเว็บไซต์ เมื่อลูกค้ามีคำสั่งปิดบัญชี ลูกค้าอนุญาตให้บริษัทยกเลิกและระงับการทำธุรกรรมทั้งหมดที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการของลูกค้า ทั้งนี้ การปิดบัญชีดังกล่าวไม่ทำให้ลูกค้าหลุดพ้นจากความรับผิดที่มีต่อบริษัทแต่อย่างใด 

การทำธุรกรรมต้องห้ามและการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือข้อตกลงฉบับนี้ 

ในกรณีบริษัทมีเหตุอันควรสงสัยว่าลูกค้ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมต้องห้ามหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือข้อตกลงฉบับนี้ ลูกค้าตกลงและยินยอมให้บริษัท บริษัทในเครือ หรือพนักงานของบริษัท ติดตาม ทบทวน เปิดเผยข้อมูล และรายงานไปยังหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่รับผิดชอบตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงเป็นดุลยพินิจฝ่ายเดียวของบริษัทในการยกเลิก อายัด ระงับ ยับยั้งบัญชีผู้ใช้ และ/หรือปิดกั้นการใช้งานโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

กรณีบริษัทยกเลิก ระงับ ยับยั้งบัญชีผู้ใช้ และ/หรือปิดกั้นการใช้งาน บริษัทจะแจ้งการดำเนินการดังกล่าวไปยังลูกค้า เว้นแต่กฎหมาย คำสั่งหรือระเบียบอันชอบด้วยกฎหมายกำหนดห้ามให้บริษัทกระทำการนั้น

ในกรณีเกิดความเสียหายแก่บริษัทอันเนื่องมาจากลูกค้าทำธุรกรรมต้องห้าม หรือฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือข้อตกลงฉบับนี้ ลูกค้ายินยอมให้บริษัทระงับบัญชีและชำระค่าสินไหมทดแทนแก่บริษัทตามความเสียหายที่แท้จริงที่เกิดขึ้นแก่บริษัท

ข้อจำกัดความรับผิด

บริษัทไม่มีความรับผิดต่อความเสียหายอันเกิดจากการตีความเนื้อหาหรือข้อมูลซึ่งปรากฎอยู่บนเว็บไซต์หรือคอร์สเรียนแต่อย่างใด ลูกค้าเข้าใจและยอมรับว่าบริษัทไม่อยู่ในฐานะที่จะพิจารณาความถูกต้องตามกฎหมายของเนื้อหาคอร์สเรียน บริษัทไม่ได้รับประกันความน่าเชื่อถือความถูกต้องความถูกต้องหรือความจริงของคอร์สเรียนในลักษณะใด ๆ โดยลูกค้าต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้สอนและเนื้อหาของคอร์สเรียนโดยยอมรับความเสี่ยงในการลงทะเบียนเรียนคอร์สเรียนดังกล่าวเอง

บริษัทจัดทำเว็บไซต์เพื่อให้บริการระหว่างบริษัทกับลูกค้าเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนหรือหุ้นส่วนของลูกค้าในการดำเนินการอย่างใดๆ

บริษัทสงวนสิทธิในการดำเนินการอย่างใดๆ เกี่ยวกับบัญชีและการใช้บริการของลูกค้าเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และ/หรือ คำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ลูกค้าตกลงและจะไม่เรียกค่าเสียหาย ค่าชดเชย หรือค่าอื่นใดจากบริษัท บริษัทในเครือของบริษัท และพนักงานของบริษัทในการที่บริษัทได้กระทำไปนั้น

ลูกค้าเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่อุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการส่งคำสั่งในการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าหรือไม่สามารถรับส่งคำดังกล่าวได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือเกิดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลอันเนื่องจากความแน่นหนา ติดขัด หรือข้อจำกัดการใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนความขัดข้องไม่สามารถทำงานได้ตามปกติโดยเกิดจากเหตุพ้นวิสัย ภัยพิบัติ หรือการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอกที่ไม่พึงประสงค์ และหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นลูกค้าตกลงและยอมรับว่าบริษัทไม่มีความผูกพันที่จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น

ในกรณีที่บริษัทพบหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าคอร์สเรียนบนเว็บไซต์ของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วนอาจขัดแย้งหรือฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา บริษัทอาจดำเนินการเพิกถอน ยกเลิก ปิดกั้น หรือระงับการเข้าถึงคอร์สเรียนดังกล่าว โดยลูกค้าเข้าใจและตกลงว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน หรือค่าอื่นใดอันเกิดจากการที่บริษัทดำเนินการนั้น 

ลูกค้ายินยอมและตกลงให้บริษัทไม่ต้องรับผิดต่อความสูญเสียหรือความเสียหายอื่นใดอันเกิดจากกรณีดังต่อนี้

(1) ความสูญเสียหรือเสียหายอันเกิดจากการเข้าใจผิดเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท

(2) ความสูญเสียหรือเสียหายอันเกิดจากการละเลยประกาศหรือการแจ้งเตือนของบริษัท

(3) ความสูญเสียจากการถูกล่วงละเมิดการใช้บัญชีโดยบุคคลที่สาม หรือความเสียหายอื่นใดซึ่งไม่ใช่ความเสียหายอันเนื่องมาจากบริษัท

ทั้งนี้ ในกรณีใดก็ตามบริษัทไม่จำเป็นต้องรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายอันเกิดจากปัจจัยภายนอกซึ่งบริษัทไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ความล้มเหลวของระบบไฟฟ้า ภัยพิบัติ หรือคำสั่งของหน่วยงานกำกับดูแลหรือภาครัฐ 

การมอบหมายและโอนสิทธิ

11.1 ลูกค้ารับทราบและตกลงว่าลูกค้าจะโอนสิทธิหรือภาระผูกพันในสัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่นมิได้ 

11.2 ลูกค้ายินยอมและตกลงให้บริษัทสามารถมอบหมายหรือโอนสิทธิหน้าที่ของบริษัทตามข้อตกลงฉบับนี้โดยปราศจากเงื่อนไขและข้อจำกัดใดให้แก่บุคคล และ/หรือ นิติบุคคลอื่น เช่น การโอนสิทธิให้บริษัทในเครือของบริษัท ผู้มีส่วนได้เสียกับบริษัท หรือผู้ให้บริการอื่นภายนอกซึ่งมีสัญญากับบริษัท เป็นต้น โดยไม่ต้องขอความยินยอมหรือแจ้งแก่ลูกค้าเป็นการล่วงหน้า

การเปลี่ยนแปลงข้อตกลง

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ตามดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวในการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในข้อตกลงฉบับนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยไม่ต้องแจ้งแก่ลูกค้าเป็นการล่วงหน้า อย่างไรก็ตามบริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นการทั่วไปกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อตกลงผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ โดยลูกค้ามีสิทธิไม่ยินยอมและสามารถยกเลิกการใช้บริการของบริษัทได้ ลูกค้าเข้าใจและยอมรับว่าเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าที่ต้องติดตามข้อตกลงที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่บริษัทได้แจ้งแก่ลูกค้า โดยบริษัทถือว่าลูกค้าได้รับทราบและยอมรับการเปลี่ยนแปลงของข้อตกลงการใช้งานที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้วหากลูกค้ายังคงใช้บริการของบริษัทผ่านเว็บไซต์ภายหลังจากวันที่มีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงของข้อตกลง

ผลของข้อตกลง

ข้อตกลงฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อลูกค้ายอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียนเปิดบัญชีผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ความสมบูรณ์ของข้อตกลงฉบับนี้จะไม่ได้รับผลกระทบในกรณีที่ข้อสัญญา เงื่อนไข หรือข้อกำหนดข้อใดข้อหนึ่งของข้อตกลงฉบับนี้เป็นโมฆะหรือไม่สามารถใช้บังคับได้ตามกฎหมาย บริษัทและลูกค้าตกลงจะใช้ความพยายามในการเจรจาเพื่อหาวิธีการที่จะสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ได้ต่อไปหรือหาวิธีการที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะเป็นไปได้ 

การบอกกล่าว

ลูกค้าตกลงว่าการบอกกล่าวหรือการแจ้งข้อความใดแก่ลูกค้าตามข้อตกลงนี้ หากมิได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง บริษัทมีสิทธิเลือกที่จะบอกกล่าวโดยการแจ้งทางโทรศัพท์ แจ้งเป็นหนังสือ หรือแจ้งผ่านเว็บไซต์ หรือวิธีการอื่นใดตามแต่บริษัทจะเห็นสมควร เช่น ทางไปรษณีย์ โทรเลข โทรพิมพ์ โทรสาร ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อความทางโทรศัพท์ เป็นต้น โดยหากบริษัทได้ดำเนินการดังกล่าว ลูกค้าตกลงให้ถือเป็นการบอกกล่าวโดยชอบแล้ว 

 

การตีความข้อตกลง

คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ได้แก่ ลูกค้า และบริษัท ได้ตกลงให้ใช้กฎหมายแห่งประเทศไทยในการใช้บังคับและตีความข้อตกลงฉบับนี้ และให้ศาลที่มีเขตอำนาจตามกฎหมายแห่งประเทศไทยพิจารณาพิพากษาคดีหรือข้อพิพาทซึ่งเกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ ผลของการทำข้อตกลง การตีความ สิทธิ หน้าที่ ความรับผิด หรือนิติสัมพันธ์อื่นใดซึ่งเกิดขึ้นจากข้อตกลงฉบับนี้

การร้องเรียนและการระงับข้อพิพาท 

บริษัทจัดให้มีช่องทางให้ลูกค้าร้องเรียนผ่านทางอีเมล์ tog@conicle.zendesk.com โดยบริษัทสงวนสิทธิในการดำเนินการแก้ไขข้อร้องเรียนเฉพาะกรณีที่ลูกค้าปฏิบัติตามขั้นตอนและช่องทางที่บริษัทกำหนดเท่านั้น โดยการดำเนินการแก้ไขข้อร้องเรียนมีกรอบระยะเวลาตั้งแต่ 30 วันทำการ ตามความซับซ้อนของรายละเอียดการร้องเรียนและมาตรการของบริษัท 

ในกรณีที่ลูกค้าและบริษัทไม่อาจตกลงหรือไกล่เกลี่ยข้อร้องเรียนได้ หรือในกรณีที่บริษัทไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้เป็นดุลยพินิจของบริษัทเพียงฝ่ายเดียวในการพิจารณาวิธีการระงับข้อร้องเรียนกับลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป โดยอาจใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ ทั้งนี้ ไม่ว่าบริษัทจะใช้วิธีการใดในการระงับข้อพิพาท ลูกค้าตกลงที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับข้อพิพาทแก่บุคคลที่สาม สื่อสาธารณะ หรือสื่อโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด หากลูกค้าเปิดเผยข้อมูลใดอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท ลูกค้ายินยอมที่จะรับผิดต่อความเสียหายดังกล่าวโดยไม่จำกัดจำนวน

กรณีข้อพิพาทที่เกิดจากลูกค้าทำธุรกรรมต้องห้ามหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือข้อตกลงฉบับนี้ ลูกค้าตกลงและยินยอมรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ค่าเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดอันเกิดจากการดำเนินการระงับข้อพิพาท และ/หรือ การปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายของบริษัท รวมถึงความรับผิดทางกฎหมาย ความสูญเสีย หรือค่าเสียหายอื่นใดต่อบุคคลที่สาม ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทต้องจ่ายค่าปรับ ค่าเสียหาย หรือค่าสินไหมทดแทนอื่นใดให้แก่หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ บุคคลที่สามซึ่งได้รับผลกระทบจากการกระทำของลูกค้าข้างต้น ลูกค้ายินยอมและตกลงที่รับผิดและชดใช้ค่าเสียหาย ค่าใช้จ่าย ค่าปรับ และ/หรือ ค่าสินไหมทดแทนอื่นใดให้แก่บริษัทด้วย

 

ประกาศความเป็นส่วนบุคคล (Privacy Notice)

ประกาศใช้เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 (ฉบับล่าสุด)

โปรดอ่านประกาศความเป็นส่วนบุคคลฉบับนี้ (“ประกาศ”) อย่างละเอียด เนื่องจากข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นและมีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่าง บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และลูกค้าในฐานะผู้ใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท (“ลูกค้า”) 

เนื่องด้วยการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทอาจได้รับข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) และเพื่อให้การจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

วิธีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยวิธีการดังต่อไปนี้

1.1 การจัดเก็บโดยตรงจากลูกค้า 

ลูกค้าอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทโดยตรง กรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าสมัครใช้บริการหรือติดต่อกับบริษัทเพื่อสอบถาม กรอกแบบฟอร์ม การร้องเรียน การทำแบบสำรวจความคิดเห็น (Survey) โดยทางออนไลน์หรือโดยเอกสาร เพื่อสมัครใช้บริการหรือร่วมกิจกรรม สอบถามข้อมูล รับการติดต่อสื่อสาร หรือให้ความเห็น/คำติชมแก่บริษัท   เป็นต้น

1.2 การจัดเก็บโดยอัตโนมัติ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากลูกค้าโดยอัตโนมัติ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์  ระบบปฎิบัติการ กิจกรรม และรูปแบบการเข้าชม พื้นที่การใช้งาน ข้อมูลประวัติการเรียน ข้อมูลประวัติการใช้งาน ประวัติการทำแบบสำรวจ โดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดูนโยบายการใช้คุกกี้   

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ

ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทอาจเข้าถึงและจัดเก็บ ได้แก่ 

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลการสมัครใช้บริการ

(1) ข้อมูลการสมัครใช้บริการ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อาชีพ สายอาชีพ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์  การศึกษา วันเกิด การศึกษา ประสบการณ์การทำงาน เป็นต้น 

(2) ข้อมูลของบัญชีสื่อโซเชียลมีเดียที่ใช้ในการลงทะเบียนใช้บริการของบริษัท (ถ้ามี) – ชื่อ-สกุล รูปภาพ ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ของบัญชี Facebook หรือ Google 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านการเงิน 

(1) ประเภทบัตรเครดิต ที่ลูกค้าใช้เพื่อการชำระค่าสินค้า จำนวนเงิน ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใดของบริษัท

(2) หลักฐานทางการเงินอื่นเพื่อใช้ในการตรวจสอบการชำระเงินค่าสินค้า ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใด

2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลจากการใช้งานเว็บไซต์

(1) ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีลูกค้า ได้แก่ ชื่อบัญชีลูกค้า (Account) ข้อมูลบัญชีลูกค้า รหัสประจำตัว (Username) รหัสผ่าน (Password) ข้อมูลที่ลูกค้าได้แก้ไขปรับปรุงในบัญชีลูกค้าของลูกค้า 

(2) ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานเข้าถึงระบบ ซึ่งไม่จำกัดเพียง IP Address ชื่อ ประเภทอุปกรณ์ ระบบดำเนินการประมวลผล ข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์ ข้อมูลการเข้าถึงเนื้อหาคอร์ส

(3) ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม – ข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมระหว่างลูกค้ากับบริษัท เช่นข้อมูลการซื้อคอร์สเรียน ข้อมูลการเข้าใช้งาน ข้อมูลผลการเรียน เป็นต้น 

(4) ข้อมูลการติดต่อและทำกิจกรรมกับบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการร้องเรียน การติดต่อสอบถามผ่านทางช่องทางของบริษัท ประวัติการเข้าร่วมกิจกรรม 

 

2.4 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านเทคนิค 

ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกระบบ ข้อมูลเว็บไซต์ที่ลูกค้าเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้ระบบ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลการทำธุรกรรม (Transaction Log) พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior) สถิติการเข้าระบบ เวลาที่เยี่ยมชมระบบ (Access Time) ข้อมูลที่ลูกค้าค้นหา การใช้ฟังก์ชันในระบบ และข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน 

วัตถุประสงค์

บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (“วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล”)

3.1 วัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามข้อตกลงการใช้บริการ

การดำเนินการเกี่ยวกับการให้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงการดำเนินการตามสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดภายใต้ข้อตกลงการใช้บริการเว็บไซต์ระหว่างบริษัทกับลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น การกรอกข้อมูลสมัครเข้าเว็บไซต์ การสร้างบัญชีชื่อผู้ใช้ ตลอดจนการกระทำอย่างใด ๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องในการดำเนินการตามสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดดังกล่าวตามสัญญาดังกล่าวซึ่งไม่จำกัดแต่เพียงการติดตามการใช้งานเว็บไซต์ของลูกค้าเพื่อตรวจสอบและป้องกันความผิดปกติหรืออาชญากรรมทางไซเบอร์

3.2 วัตถุประสงค์ในการติดต่อและประชาสัมพันธ์

การติดต่อและประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัทผ่านเบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การติดต่อเพื่อยืนยันตัวตนในการใช้งาน การเปลี่ยนแปลงรหัสและรหัสผ่านลูกค้า การแก้ไขข้อร้องเรียน การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร โปรโมชั่น หรือเหตุการณ์สำคัญ เป็นต้น รวมถึงการติดต่อเพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับการใช้บริการเพื่อพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของบริษัท  การเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ

3.3 วัตถุประสงค์ตามกฎหมาย

การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของบริษัทซึ่งไม่จำกัดแต่เพียงกฎหมายว่าด้วยกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือคำสั่งจากหน่วยงานรัฐ รวมถึงการปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมาย การใช้สิทธิตามกฎหมายของบริษัท หรือเพื่อการอันจำเป็นในการตรวจสอบการกระทำที่มีลักษณะอาจฝ่าฝืนข้อตกลงการใช้บริการ กฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งจากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล

3.4 วัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม

การดำเนินการใดซึ่งจำเป็นในการรักษาและพัฒนามาตรฐานความมั่งคงปลอดภัยของการให้บริการของบริษัท ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินและข้อมูลของลูกค้าและบริษัทเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.5 วัตถุประสงค์ในการป้องกันภยันอันตราย

การดำเนินการด้วยความสุจริตว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของลูกค้า ในกรณีลูกค้าไม่สามารถให้ความยินยอมเพื่อเปิดเผยข้อมูลในขณะนั้นได้ 

ระยะเวลาในการจัดเก็บ

บริษัทดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตลอดระยะเวลาการใช้งานเว็บไซต์ ไม่เกิน 10 ปี ภายหลังการยุติความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับบริษัท โดยบริษัทจะจัดให้มีการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งจากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงการบังคับใช้สิทธิตามกฎหมายหรือสัญญาตามที่บริษัทเห็นสมควร

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนของลูกค้าแก่บุคคลภายนอกภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล โดยบุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่

5.1 กลุ่มบริษัทในเครือของบริษัท

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บริษัทในเครือของบริษัททั้งภายในประเทศและต่างประเทศ (หากมี) โดยเฉพาะการเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ตามข้อตกลงการใช้บริการ ซึ่งบริษัทอาจมอบหมายให้บริษัทในเครือของบริษัทเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลเท่านั้น

5.2 ผู้ให้บริการภายนอก 

บริษัทอาจใช้บริการผู้ให้บริการภายนอกที่จำเป็นในการให้บริการผ่านเว็บไซต์ เช่น ผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้อมูล ผู้ให้บริการคลาวด์สำหรับการสำรองข้อมูลและจัดเก็บข้อมูล (Cloud Service Provider) ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวอย่างเช่น Digital Ocean, LLC , Cloudflare, Inc., Mailgun Technologies, Inc., Facebook, Inc, Google LLC เป็นต้น รวมถึงการใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกเพื่อพัฒนาหรือเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเดบิต บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น ตลอดจนที่ปรึกษาด้านวิชาชีพต่าง ๆ โดยบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจัดให้มีการทำสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างบริษัทและผู้ให้บริการดังกล่าวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีการเปิดเผยอย่างเคร่งครัด โดยผู้ให้บริการภายนอกจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดเก็บ ใช้  หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่บริษัท

5.3 หน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

ในกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งไม่จำกัดแต่เพียงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  หรือกรณีที่เป็นคำสั่งจากหน่วยงานรัฐหรือศาล รวมถึงการปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมาย การใช้สิทธิตามกฎหมายของบริษัท 

 

(ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล”)

การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งกรณีที่เป็นการจัดเก็บแบบเอกสาร (Hard Copy) และแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามแนวทางรักษาความปลอดภัยที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ แนวทางรักษาความปลอดภัยของบริษัทครอบคลุมทั้งการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยอนุญาตให้มีการเข้าถึงและใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะพนักงานที่ได้รับอนุญาตและใช้งานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่กำหนดข้างต้น 

สิทธิของลูกค้า

ลูกค้ามีสิทธิในการร้องขอให้บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนดังต่อไปนี้

7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access) 

ลูกค้ามีสิทธิในการขอเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมถึงขอให้เราเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทเท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้กระทำการได้

7.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification) 

ลูกค้ามีสิทธิขอตรวจสอบ เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้มีความถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน โดยไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.3 สิทธิในการคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)

ลูกค้ามีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวในกรณีดังต่อไปนี้

(1) กรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบบุคลของลูกค้าโดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทสามารถแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกข้อต่อสู้ตามกฎหมาย

(2) บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ของการตลาดแบบตรง

(3) บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

7.4 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)

ลูกค้ามีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับลูกค้าในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวของลูกค้าไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวลูกค้าเอง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7.5 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)

ในกรณีที่บริษัทอาศัยความยินยอมของลูกค้าในการจัดเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ลูกค้ามีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบบุคลของลูกค้าอยู่กับบริษัท ทั้งนี้ ในกรณีที่ลูกค้าปฏิเสธหรือเพิกถอนความยินยอมในการจัดเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทอาจทำให้ลูกค้าถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้หากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการ

7.6 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)

ลูกค้าอาจขอให้บริษัทลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในข้อ 3

(2) ลูกค้าขอถอนความยินยอมที่เป็นฐานในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป

(3) ลูกค้าได้คัดค้านการประมวลผลตามข้อ 7.3

(4) เมื่อมีการเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กรณีที่ระบุไว้ข้างต้นนี้จะไม่นำมาใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือสถิติ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ หรือประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

7.7 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)

ลูกค้ามีสิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้

(1) บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ลูกค้าร้องขอ

(2) กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายตามข้อ 7.6 แต่ลูกค้าประสงค์ให้ระงับการใช้แทน

(3) บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอีกต่อไป แต่ลูกค้ามีความจำเป็นและขอให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

4) บริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ตามข้อ 7.3 (1)  หรือตรวจสอบตามข้อ 7.3 (3) เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของลูกค้าตามข้อ 7.3

7.8 สิทธิในการร้องเรียนหน่วยงานกำกับดูแล (Right to File Complaint)

ในกรณีที่บริษัทหรือลูกจ้าง หรือพนักงานของบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ลูกค้ามีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้

การใช้สิทธิและการติดต่อ

ในกรณีที่ลูกค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทหรือประสงค์ใช้สิทธิข้างต้น ลูกค้าอาจดำเนินการติดต่อได้ที่ tog@conicle.zendesk.com โดยบริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของลูกค้าโดยไม่ชักช้าและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องดังกล่าวภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องดังกล่าว เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่บริษัทเกินสมควร หรือเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ

การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนบุคคล

บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ด้วยช่องทางที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามลูกค้าตกลงและเข้าใจดีว่าเป็นหน้าที่ของลูกค้าในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของประกาศความเป็นส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว

 

นโยบายคุกกี้

 

เว็บไซต์นี้ให้บริการโดย บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  (ในที่นี้รวมเรียกว่า “เรา” ) เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้และเครื่องมืออื่นเพื่อช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆซึ่งจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ถือว่าท่านได้ยินยอมให้เราติดตั้งคุกกี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน

 

คุกกี้คืออะไร?

 

คุกกี้คือข้อความขนาดเล็กที่ประกอบด้วยส่วนของข้อมูลที่มาจากการดาวน์โหลดที่อาจถูกเก็บบันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้งานหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต (อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของท่าน) โดยที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์สามารถเรียกดูได้ในภายหลัง คล้ายกับหน่วยความจำของหน้าเว็บ

 

การทำงานของคุกกี้ ช่วยให้เรารวบรวมและจัดเก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านดังต่อไปนี้โดยอัตโนมัติ

 

    อินเตอร์เน็ตโดเมนและ IP Address จากจุดที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์

    ประเภทของเบราว์เซอร์ซอฟต์แวร์ ตลอดจนโครงสร้างและระบบการปฏิบัติงานที่ใช้ในการเข้าสู่เว็บไซต์

    วันที่และเวลาที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์

    ที่อยู่ของเว็บไซต์อื่นที่เชื่อมโยงท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของเรา และ

    หน้าเว็บที่ท่านเข้า เยี่ยมชม และนำท่านออกจากเว็บไซต์ของเรา รวมถึงเนื้อหาบนหน้าเว็บที่ท่านเยี่ยมชมและระยะเวลาที่ท่านใช้ในการเยี่ยมชม

 

 

คำแถลงเกี่ยวกับนโยบายส่วนบุคคลของเรา จะกำหนดรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับข้อมูลอื่นๆ ที่เราจัดเก็บและวิธีการที่เรานำข้อมูลส่วนตัวของท่านไปใช้

การใช้งานคุกกี้

 

ประเภทของคุกกี้ที่เราใช้และในการใช้คุกกี้ดังกล่าว ประกอบด้วย แต่ไม่จำกัดเพียง รายการต่อไปนี้

 

    คุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies): คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย

 

    คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงานของเว็บไซต์(Analytical/Performance Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราสามารถจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ตลอดจนช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น อีกทั้งเพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์โดยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาของเรา

 

    คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies): คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำตัวท่านเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถปรับแต่งเนื้อหาสำหรับท่าน ปรับให้เว็บไซต์ของเราตอบสนองความต้องการใช้งานของท่าน รวมถึงจดจำการตั้งค่าของท่าน อาทิ ภาษา หรือภูมิภาค หรือขนาดของตัวอักษรที่ท่านเลือกใช้ในการใช้งานในเว็บไซต์

 

    คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะบันทึกการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน หน้าเว็บที่ท่านได้เยี่ยมชม และลิงค์ที่ท่านเยี่ยมชม เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับให้เว็บไซต์และเนื้อหาใด ๆ ที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บตรงกับความสนใจของคุณมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังอาจแชร์ข้อมูลนี้กับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว และ

 

    คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Advertising Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ และนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น การเลือกแสดงโฆษณาสินค้าที่ท่านสนใจ การป้องกันหรือการจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นหน้าเว็บไซต์ของโฆษณาซ้ำๆ  เพื่อช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณา

 

 

โปรดทราบว่าคุกกี้บางประเภทในเว็บไซต์นี้จัดการโดยบุคคลที่สาม เช่น เครือข่ายการโฆษณา ลักษณะการทำงานต่าง ๆ อาทิ วิดีโอ แผนที่ และโซเชียลมีเดีย และผู้ให้บริการเว็บไซต์ภายนอกอื่น ๆ เช่น บริการวิเคราะห์การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นต้น คุกกี้เหล่านี้มักจะเป็นคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงาน หรือคุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ท่านควรต้องศึกษานโยบายการใช้คุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลในเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการที่บุคคลที่สามอาจนำข้อมูลของท่านไปใช้

 

การตั้งค่าคุกกี้

 

ท่านสามารถบล็อกการทำงานของคุกกี้ได้โดยการกำหนดค่าในเบราวเซอร์ของท่าน ซึ่งท่านอาจปฏิเสธการติดตั้งค่าคุกกี้ทั้งหมดหรือบางประเภทก็ได้ แต่พึงตระหนักว่าหากท่านตั้งค่าเบราวเซอร์ของท่านด้วยการบล็อกคุกกี้ทั้งหมด (รวมถึงคุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน) ท่านอาจจะไม่สามารเข้าสู่เว็บไซต์ทั้งหมดหรือบางส่วนของเราได้

 

เมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการยกเลิกความยินยอมการใช้งานคุกกี้ ท่านจะต้องตั้งค่าเบราวเซอร์ของท่านเพื่อให้ลบคุกกี้ออกจากแต่ละเบราวเซอร์ที่ท่านใช้งาน